ร็อกเก็ตส์-สเปอร์สไม่จ่ายเต็มราคาให้เคดี

ร็อกเก็ตส์-สเปอร์สนั่งดูเคดีผ่านไป
เรื่องจริงคือ: ในลีกที่เน้นความเยาวชนและประสิทธิภาพ การมีผู้เล่นระดับตำนานอย่างเคดีไม่ได้หมายถึงความปลอดภัยอีกต่อไป เมื่อแมร์ค สไตน์ เปิดเผยข่าวว่าทั้งฮูสตันและซานอันโตนิโอไม่สนใจแพ็กเกจใหญ่เพื่อคว้าเคดี ฉันเข้าใจทันที
เคดีอายุ 37? เลขเดียวเท่านี้ก็ทำให้แผนกบริหารหน้าซีดแล้ว ไม่ใช่ว่าเขาเล่นแย่—ยังทำได้กว่า 25 พ้อยต่อเกม—but จุดหมายของเขากลายเป็นพื้นฐาน เขาไม่มากพอสำหรับการสร้างความหวังในอนาคต
เศรษฐศาสตร์จริงเบื้องหลังการปฏิเสธ
สมองเชิงข้อมูลของฉันเริ่มทำงาน: หากคุณวางแผนเพื่อปี 2030 การจ่ายเงินจำนวนมากให้ผู้เล่นที่อาจลาออกก่อนปี 2028 เหมือนการพนันกับเรือกำลังจม
ร็อกเก็ตส์? มีดาวรุ่งอย่างวินเซนต์ เวอมบานยาเม และเจเลน กรีนกำลังมาแรง การสร้างอนาคตไม่ใช่อยู่กับตำนานแต่อยู่ที่การเลือกดราฟต์ศักดิ์ศรี
สเปอร์ส? เหมือนกัน พลังของพอปอวิตช์อยู่ในระบบที่ยั่งยืน—not superstars โดยเฉพาะคนที่จะได้เงิน $40M เพื่อนำพาทัพ
ไม่มากกว่าเหตุผลแข็งแกร่ง
clearly not personal. It’s not about KD being ‘done’—he’s still elite, just… not worth the risk anymore.
ฉันเติบโตมากับภาพของตำนานที่หายไปโดยไม่มีใครจำ — คนๆ เหล่านั้นเคยให้อะไรหมดแต่มารับแค่วัยหมดไฟ เมื่อระบบรางวัลให้นักดาวรุ่งใหม่แทนผู้เฒ่าแม้มืออาชีพจะยังยอดเยี่ยม
แต่อยากถามคุณ: เราเคยบอกคนใต้ฝนมานานแค่ไหน ก่อนจะยอมให้เขาจบลง?
เรื่องใหญ่มากกว่านี้: คนไหนถูกทอดทิ้ง?
ข่าวซื้อขายครั้งนี้เผยอะไรบางอย่าง: มูลค่าทางมนุษยธรรมในการไล่อายุออกจากตลาด เราชอบเรื่องราวของการกลับมา เช่นจอร์แดนจากเบสบอล,โคบี้ตายกลางทาง—but we don’t celebrate what happens after. เมื่อนักกีฬาหมดค่าตลาด เราปล่อยพวกเขาไปโดยไร้น้ำเสียง
เคดีย้อนหลังจากปี 2010 เป็นหนึ่งในผู้เล่นคงเส้นคงวาตลอดกาล—and now he facesความเงียบจากทัพที่เคยขอเขามาแบบขอแท็กซี่
มันเจ็บ—ไม่ว่าจะเพราะฉันลำเอียงหรือเปล่า—but this momentสะท้อนเรื่องราวของคนใต้วิกฤตเสมอ:
ไม่มากกว่านี้เลย มือใหม่อยู่เหนือโอกาส
ระบบจำได้มวลชนตามเวลา—not those whoเปลี่ยนมุมมองโลก
เอาละ—อาจทำไม่มอบราคาเต็มให้เคดียอดมนุษยชาติตัวเองในตอนนี้ แต่ว่าอะไรสำคัญกว่านั้น? จะจำอะไรเขาได้มั๊ยว่าเขาเคยมอบอะไรไว้น่ะ
ChiCityVoice
